AI เป็นแค่เครื่องมือ แต่สงครามเกิดจากตัณหาของมนุษย์
ในพุทธศาสนา สงครามเกิดจาก “โลภะ โทสะ และโมหะ” ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอาการของ “ตัณหา”
“ตัณหาทำให้โลกดิ้นรน ตัณหาทำให้โลกกระวนกระวาย ตัณหาทำให้เกิดการแย่งชิง”
(บาลี: อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต)
ถ้ามนุษย์ใช้ AI เพื่อช่วยเหลือกัน → โลกก็สงบสุข
ถ้ามนุษย์ใช้ AI เพื่อเอาเปรียบกัน → ก็เกิดสงคราม
AI เป็นอาวุธในการแบ่งแยกมนุษย์?
หากมนุษย์กลุ่มหนึ่ง มี AI และใช้มันเพื่อควบคุมกลุ่มที่ ไม่มี AI ก็อาจเกิดสงครามในรูปแบบใหม่ เช่น
AI ใช้ในการครอบงำเศรษฐกิจ
→ กลุ่มที่มี AI ใช้ควบคุมตลาด แย่งทรัพยากรจากกลุ่มที่ไม่มี AI
AI เป็นอาวุธสงคราม
→ โดรนสังหาร, AI ควบคุมระบบจรวด หรือ AI สอดแนมศัตรู
AI ทำให้เกิดชนชั้นใหม่
→ คนรวยที่ใช้ AI จะได้เปรียบ คนจนที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยีจะถูกทอดทิ้ง
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องนี้ไว้อย่างไร?
พระองค์สอนว่า
“โลกนี้มีแต่ความขัดแย้ง เพราะมนุษย์มีตัณหาและยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เป็นของตน”
(บาลี: สังยุตตนิกาย ตัณหาสังยุต)
ถ้าเราต้องการให้ AI เป็นพลังบวก → เราต้องลดละ “โลภะ โทสะ โมหะ”
ถ้าเราปล่อยให้ AI เป็นอาวุธ → สุดท้ายจะเกิดความขัดแย้งและความทุกข์
วิธีป้องกัน AI ไม่ให้กลายเป็นอาวุธที่ทำลายมนุษย์
มีศีลธรรมในการใช้ AI → ไม่ใช้ AI เพื่อเอาเปรียบผู้อื่น
ให้ AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่เจ้านาย → มนุษย์ต้องคุม AI ไม่ใช่ AI คุมมนุษย์
ลดความโลภในจิตใจ → ถ้าทุกคนไม่มุ่งหวังทำร้ายกัน ก็ไม่มีใครใช้ AI ไปในทางร้าย
สร้างระบบกฎหมายควบคุม AI → ต้องมีกฎเกณฑ์ไม่ให้ AI ถูกใช้เพื่อทำสงคราม
อนาคตของโลก AI อยู่ที่ “เจตนาของมนุษย์”
AI จะเป็นเครื่องมือแห่งสันติภาพ หรือ อาวุธแห่งสงคราม อยู่ที่ เจตนา ของคนที่ควบคุมมัน
มนุษย์ต้องรับผิดชอบ AI ไม่ใช่ปล่อยให้มันทำลายมนุษย์เอง
สรุป
AI ต้องพึ่งมนุษย์ เพราะมนุษย์คือผู้สร้างมัน
สงครามไม่ได้เกิดจาก AI แต่เกิดจากตัณหาของมนุษย์
ถ้ามนุษย์ใช้ AI ในทางที่ผิด ก็จะเกิดสงครามระหว่าง “มนุษย์ที่ใช้ AI” กับ “มนุษย์ที่ไม่มี AI”
พระพุทธเจ้าสอนว่า “สงครามมาจากโลภะ โทสะ โมหะ” ดังนั้น ทางรอดคือปัญญา ศีลธรรม และสติปัญญาในการใช้ AI