Latest Posts

Disney ฝัง Generative AI เข้าสู่โมเดลการดำเนินงาน: กลยุทธ์ควบคุม IP และสร้างสรรค์เนื้อหาในยุคใหม่

**The Walt Disney Company** บริษัทที่สร้างขึ้นบนรากฐานของทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property – IP) และการขยายขนาด (Scale) กำลังเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมสิทธิ์ ความปลอดภัย และความสอดคล้องของแบรนด์ ในขณะที่ต้องผลิตและเผยแพร่เนื้อหาในรูปแบบที่หลากหลาย [1] การนำ **Generative AI** เข้ามาใช้จึงไม่ใช่แค่การทดลอง แต่เป็นการฝังเทคโนโลยีนี้เข้าสู่ **โมเดลการดำเนินงาน (Operating Model)** หลักของบริษัท

## ข้อตกลงเชิงกลยุทธ์กับ OpenAI

ข้อตกลงระหว่าง Disney และ OpenAI เผยให้เห็นถึงแนวทางที่องค์กรขนาดใหญ่ซึ่งมี IP จำนวนมากพยายามแก้ไขความตึงเครียดนี้ โดย Disney ได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นทั้ง **พันธมิตรด้านการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ (Licensing Partner)** และ **ลูกค้าองค์กรรายใหญ่ (Major Enterprise Customer)** [1]

### การควบคุมการสร้างสรรค์ด้วย Sora

ภายใต้ข้อตกลงนี้ **Sora** โมเดลวิดีโอของ OpenAI จะสามารถสร้างวิดีโอสั้น ๆ ตามคำสั่งของผู้ใช้ โดยใช้ชุดตัวละครและสภาพแวดล้อมที่ **Disney เป็นเจ้าของและกำหนดไว้** [1]

* **ข้อจำกัดที่สำคัญ:** การอนุญาตให้ใช้สิทธิ์นี้ **ไม่รวมถึง** ภาพลักษณ์และเสียงของนักแสดง, จำกัดประเภทของทรัพย์สินที่สามารถใช้ได้, และมีการใช้มาตรการควบคุมความปลอดภัยและความเหมาะสมตามวัยอย่างเข้มงวด [1]
* **เป้าหมาย:** การใช้ Generative AI เป็นเพียง **ชั้นการผลิตที่ถูกจำกัด (constrained production layer)** ที่สามารถสร้างความหลากหลายและปริมาณได้ แต่ถูกควบคุมโดยธรรมาภิบาล (governance) ของ Disney [1]

### การบูรณาการ AI เข้ากับระบบงานที่มีอยู่

Disney กำลังหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่พบบ่อยในโครงการ AI ขององค์กร คือการที่เครื่องมือ AI ถูกแยกออกจากระบบงานจริง [1]

* **การใช้งานภายใน:** Disney จะใช้ **API ของ OpenAI** เพื่อสร้างเครื่องมือภายในและประสบการณ์ผู้บริโภคใหม่ ๆ รวมถึงการบูรณาการเข้ากับ **Disney+** และจะใช้ **ChatGPT** ภายในองค์กรสำหรับพนักงาน [1]
* **การลดความขัดแย้ง:** การเข้าถึง AI ผ่าน API และผู้ช่วยมาตรฐานจะช่วยลดความขัดแย้งในการทำงาน (friction) และทำให้การใช้งาน AI สามารถสังเกตและควบคุมได้ง่ายขึ้น [1]

## บทเรียนสำหรับผู้นำองค์กร

กลยุทธ์ของ Disney สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการนำ AI มาใช้ในองค์กร:

| หลักการ | คำอธิบาย | ผลลัพธ์ที่คาดหวัง |
| :— | :— | :— |
| **ฝัง AI ในจุดที่งานเกิดขึ้น** | มุ่งเป้าไปที่ขั้นตอนการทำงานของผลิตภัณฑ์และพนักงาน ไม่ใช่การสร้าง “แซนด์บ็อกซ์ AI” แยกต่างหาก | ลดขั้นตอนการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจ |
| **จำกัดก่อนขยายขนาด** | การกำหนดชุดทรัพย์สินที่ชัดเจนและข้อยกเว้น ทำให้การใช้งาน AI เป็นไปได้ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง | ควบคุมความเสี่ยงด้าน IP และความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
| **ใช้ API เพื่อลดความขัดแย้ง** | การเข้าถึงระดับ API ช่วยให้สามารถฝัง AI เข้ากับตรรกะของผลิตภัณฑ์และระบบบันทึกข้อมูลที่มีอยู่ได้โดยตรง | AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างเชื่อมโยง (connective tissue) ไม่ใช่ภาระงานเพิ่มเติม |
| **เชื่อมโยง AI กับผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ** | การลงทุนใน AI ควรเชื่อมโยงกับรายได้ โครงสร้างต้นทุน และกลยุทธ์แพลตฟอร์มระยะยาว | ทำให้ AI เป็นส่วนหนึ่งของวงจรการวางแผนมาตรฐาน ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น |
| **ถือว่าความปลอดภัยเป็นโครงสร้างพื้นฐาน** | การใช้ระบบอัตโนมัติที่แข็งแกร่งในการจัดการความปลอดภัยและสิทธิ์ IP เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขยายขนาด ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำภายหลัง | สนับสนุนการเติบโตโดยลดความเปราะบางของระบบ |

## สรุป

การตัดสินใจของ Disney ที่จะฝัง Generative AI เข้าสู่แกนหลักของการดำเนินงานแสดงให้เห็นว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างสรรค์ แต่เป็น **ขีดความสามารถในแนวนอน (horizontal capability)** ที่ต้องได้รับการกำกับดูแล บูรณาการ และวัดผล เพื่อให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจอย่างแท้จริง [1]

***

### แหล่งอ้างอิง

[1] Artificial Intelligence News. (2025, December 24). *Disney is embedding generative AI into its operating model*. [https://www.artificialintelligence-news.com/news/why-disney-is-embedding-generative-ai-into-its-operating-model/](https://www.artificialintelligence-news.com/news/why-disney-is-embedding-generative-ai-into-its-operating-model/)