Latest Posts

คำสอนและหลักปรัชญาของ Alexandr Wang ในยุคปัญญาประดิษฐ์

รายงานนี้จัดทำขึ้นเพื่อวิเคราะห์หลักปรัชญา คำสอน และข้อความสร้างแรงบันดาลใจจาก Alexandr Wang ผู้ก่อตั้ง Scale AI และอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่าย AI ของ Meta โดยเน้นย้ำถึงการเชื่อมโยงวิสัยทัศน์ของเขากับยุทธศาสตร์การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ความมั่นคงของชาติ และการปฏิรูปทักษะที่จำเป็นสำหรับคนรุ่นใหม่


I. บทนำ: การกำเนิดของผู้นำทางเทคโนโลยีแห่งยุค AI

1.1 บริบทส่วนบุคคลและการก่อตั้ง Scale AI

Alexandr Wang ถือเป็นบุคลากรสำคัญที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทในอุตสาหกรรม AI ด้วยความรวดเร็วและเป็นที่น่าจับตามองในระดับโลก.1 เขาเป็นอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ที่ตัดสินใจลาออกจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ในวัย 19 ปี เพื่อร่วมก่อตั้ง Scale AI ในปี 2016.2 ความสำเร็จของเขาทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีพันล้านที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตนเองที่อายุน้อยที่สุดในโลกเมื่ออายุ 24 ปี.2

Scale AI ก่อตั้งขึ้นบนพื้นฐานของการแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของระบบ AI นั่นคือการจัดการข้อมูล ภารกิจหลักของบริษัทคือการช่วยให้ทีมการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) สามารถติดป้ายกำกับข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยเปลี่ยนข้อมูลจริงที่มักจะ “ยุ่งเหยิง” ให้กลายเป็นข้อมูลคุณภาพสูงที่ AI สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.5 บริษัทได้พัฒนาจากสตาร์ทอัพเล็ก ๆ ใน Y Combinator จนกลายเป็นกระดูกสันหลังของโครงสร้างพื้นฐาน AI ของสหรัฐฯ โดยให้บริการลูกค้าตั้งแต่บริษัท Fortune 500 ไปจนถึงการวางแผนทางทหารแบบเรียลไทม์.5 ในช่วงหลัง Wang ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Chief AI Officer ที่ Meta โดยมุ่งเน้นการผลักดันเป้าหมายในการสร้างระบบ “Superintelligence” ของบริษัท.7

1.2 การสร้างกรอบแนวคิด: คุณค่าที่แท้จริงเหนือภาพลักษณ์ภายนอก

ภูมิหลังของ Alexandr Wang มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดมุมมองเชิงยุทธศาสตร์ของเขา เขาเป็นบุตรชายของนักฟิสิกส์ผู้อพยพชาวจีนที่ทำงานที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอสอะลามอส (Los Alamos National Laboratory) ซึ่งเป็นสถานที่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์.3 การเติบโตในสภาพแวดล้อมดังกล่าวได้ปลูกฝังความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งว่า “เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า” เป็นส่วนสำคัญในการรักษาความมั่นคงของชาติและการป้องปราม.3 ด้วยเหตุนี้ ทุกคำกล่าวของเขาเกี่ยวกับการเป็นผู้นำด้าน AI หรือการแข่งขันทางเทคโนโลยีจึงต้องถูกพิจารณาผ่านเลนส์ของความเร่งด่วนทางยุทธศาสตร์และผลกระทบระดับชาติ

หลักปรัชญาของ Wang คือการให้ความสำคัญกับแก่นแท้และโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ AI การมุ่งเน้นที่ข้อมูล (Data) และโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) มากกว่ากระแสที่เกิดขึ้นในชั้นของโมเดล (Model Layer Hype) สะท้อนถึงความเชื่อในคุณค่าภายในที่มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวที่ปรากฏบ่อยครั้งในบริบทอื่น (Alexander Wang ดีไซเนอร์) ที่ว่า “Anyone can get dressed up and glamorous, but it is how people dress in their days off that are the most intriguing”.9 แม้ว่าคำกล่าวนี้จะมาจากบริบทแฟชั่น แต่ในเชิงเปรียบเทียบ มันสื่อถึงความสนใจในสิ่งที่ “แท้จริง” (Intrinsic value) มากกว่าสิ่งที่ “ฉาบฉวย” (Glamorous facade) ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันที่ Wang (AI executive) ใช้ในการสร้างบริษัทของเขาให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเบื้องหลัง.3


II. กรอบแนวคิดและวิสัยทัศน์: เสาหลักทั้งสามของสถาปัตยกรรม AI

2.1 การวางตำแหน่งทางยุทธศาสตร์: เหนือและใต้โมเดล

Alexandr Wang ได้แบ่งองค์ประกอบหลักของระบบ AI ออกเป็นสามเสาหลัก: โมเดล (Models), การประมวลผล (Compute), และข้อมูล (Data).10 การวิเคราะห์ของเขามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการและนักยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีในการค้นหาจุดที่สร้างความได้เปรียบที่ยั่งยืน

Wang ตั้งข้อสังเกตอย่างเปิดเผยว่า ธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้เช่าโมเดล AI เพียงอย่างเดียว (Pure Model Renting) มีความเสี่ยงที่จะเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพต่ำที่สุด.11 ความเห็นนี้มีพื้นฐานมาจากการประเมินความเป็นไปได้สองประการ: ประการแรกคือ หากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น Meta ยังคงเปิดเผยโมเดลของตนเป็นโอเพนซอร์สอย่างต่อเนื่อง ย่อมเป็นการจำกัดมูลค่าสูงสุดที่สามารถทำได้จากชั้นของโมเดล.11 ประการที่สองคือ หากห้องปฏิบัติการวิจัยหลายแห่งสามารถสร้างโมเดลที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันได้ตลอดเวลา นั่นจะเปลี่ยนสมการราคาให้กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์อย่างรวดเร็ว.11

การคาดการณ์นี้บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในระดับสูงว่าการบรรลุประสิทธิภาพที่เท่าเทียมกันของโมเดล (Model Performance Parity) จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาด ดังนั้น ความได้เปรียบเชิงแข่งขันที่แท้จริงจึงไม่ได้อยู่ที่ตัวโมเดลเอง แต่จะอยู่ที่ “ข้างบนและข้างล่าง” โมเดล.11 นั่นคือ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผล (Compute) และที่สำคัญที่สุดคือ

ข้อมูล (Data) ซึ่งเป็นปัจจัยสร้างคูน้ำป้องกัน (moat) ที่แข็งแกร่งที่สุด

2.2 การลงทุนในข้อมูลคุณภาพสูงเป็นทรัพย์สินทางปัญญา

Scale AI ถูกสร้างขึ้นเพื่อเน้นย้ำถึงบทบาทของข้อมูล.5 Wang เน้นย้ำว่า การสร้างทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ในยุคหน้าจะเปลี่ยนจากการยึดติดกับฐานโค้ด (codebases) ไปสู่

โมเดล AI ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Highly Specialized AI Models) ซึ่งได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดด้วยข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทนั้น ๆ.12 การที่ Scale AI ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรสำคัญระดับโลก เช่น กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ (Pentagon) และบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ สะท้อนให้เห็นว่าความสามารถในการเปลี่ยนข้อมูลดิบให้เป็นข้อมูลคุณภาพสูงที่ใช้งานได้จริงคือโครงสร้างพื้นฐานที่ขาดไม่ได้.2

การลงทุนในข้อมูลคุณภาพสูงจึงถือเป็นกลไกการป้องกันความเสี่ยงจากการที่โมเดล AI จะกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Model Commoditization) ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับระบบที่มีความสำคัญต่อภารกิจ (Mission-Critical Systems) เช่น ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือยุทธศาสตร์การทหาร.5 ข้อมูลที่เป็นเอกลักษณ์และมีคุณภาพสูงที่ใช้ในการฝึกโมเดลเหล่านี้จะยังคงเป็นทรัพยากรที่หายากและมีมูลค่าสูง ทำให้เกิดความได้เปรียบที่คู่แข่งเข้าถึงได้ยาก

2.3 ความท้าทายในการนำ AI มาปรับใช้เชิงยุทธศาสตร์

Wang มองว่าการขยายขนาด AI (Scale AI) เป็นความท้าทายหลายมิติที่ซับซ้อนกว่าแค่ด้านเทคโนโลยี.12 การนำ AI มาใช้ในองค์กรเพื่อลด “ความน่าเบื่อหน่าย” (drudgery) และเพิ่มประสิทธิภาพจะต้องมีการจัดการการเปลี่ยนแปลงขององค์กร (Organizational Change), การปรับเวิร์กโฟลว์ของมนุษย์, และการสร้างบทบาทงานเฉพาะทางใหม่ ๆ.12 สิ่งนี้เน้นย้ำถึงความเป็นจริงเชิงเทคนิคว่า แม้เขาจะผลักดันความทะเยอทะยานด้าน Superintelligence แต่ในเชิงธุรกิจ การดำเนินงานต้องมีความรอบคอบ

นอกจากนี้ Wang ยังได้แสดงความรอบคอบเชิงเทคนิคโดยการเตือนผู้ก่อตั้งไม่ให้เริ่มต้นธุรกิจที่ “ล้ำหน้าเกินกว่าที่ขีดความสามารถของเทคโนโลยีจะทำได้” ในปัจจุบัน.13 แม้จะมีความตื่นเต้นอย่างมากในอุตสาหกรรม แต่โมเดล AI ยังคงมีจุดอ่อนหลายอย่าง เช่น การสร้างข้อมูลเท็จ (hallucinate) และความไม่เชี่ยวชาญในการให้เหตุผล (reasoning).13 การดำเนินงานของ Scale AI ในช่วงเริ่มต้นที่เน้นการใช้งานแบบจำกัดวง (narrow, high-impact use cases) 12 ก่อนที่จะขยายวงกว้างขึ้น เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ความทะเยอทะยานไปพร้อมกับความรอบคอบทางเทคนิค


III. หลักปรัชญาแห่งความเป็นผู้นำ: ความเข้มข้น คุณภาพ และความมุ่งมั่น

ความเป็นผู้นำของ Wang ถูกกำหนดโดยมาตรฐานที่สูงเกินกว่าบรรทัดฐานทั่วไป ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างองค์กรที่ประสบความสำเร็จในตลาดเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งกันที่ดุเดือด

3.1 วิทยานิพนธ์ “การทำเกินกว่าเหตุ”

หลักปรัชญาหนึ่งของ Wang คือความเชื่อที่ว่าสำหรับผู้นำที่ประสบความสำเร็จ สิ่งที่คนภายนอกเรียกว่า “การทำเกินความคาดหมาย” (Overdelivering) นั้นเป็นเพียง “การส่งมอบงาน” (Delivering) เท่านั้น.14 การรับรู้ถึงความเข้มข้นที่แตกต่างกันนี้ขยายไปถึงการบริหารจัดการ: “การจัดการแบบจู้จี้” (micromanagement) เป็นเพียง “การจัดการ” (just management) และ “การจัดลำดับความสำคัญอย่างโหดเหี้ยม” (ruthless prioritization) เป็นเพียง “การจัดลำดับความสำคัญ”.14

ความเชื่อนี้สะท้อนว่าชัยชนะในตลาด AI ที่มีความผันผวนสูงและมีการแข่งขันแบบผู้ชนะกินรวบ (winner-take-all) ต้องใช้ความมุ่งมั่นในระดับที่คนทั่วไปอาจมองว่า “หมกมุ่น” (obsessive focus).14 Wang ย้ำว่า “If you’re not overdoing it, you’re underdoing it”.14 ความทุ่มเทระดับนี้มีความจำเป็นเมื่อองค์กรกำลังสร้างเทคโนโลยีที่มี “ความหมาย สวยงาม และเจ็บปวด” (meaningful, beautiful, and painful).14 การยกระดับมาตรฐานของความทุ่มเทจนกระทั่งผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมกลายเป็นบรรทัดฐานขั้นต่ำสุดถือเป็นรากฐานในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

3.2 หลักการ “คุณภาพคือแฟร็กทัล”

หลักการ “คุณภาพคือแฟร็กทัล” (Quality is Fractal) เป็นค่านิยมหลักของ Scale AI และเป็นแนวคิดสำคัญที่กำหนดความคาดหวังในการดำเนินงาน.15 หลักการนี้หมายความว่า มาตรฐานคุณภาพที่สูงจะต้องซึมซาบและไหลลงไปในทุกระดับชั้นขององค์กร โดยเริ่มต้นจากความเป็นผู้นำ.15

Wang อธิบายว่า หากพนักงานรับรู้ว่าผู้จัดการของตนหรือผู้จัดการระดับที่สูงขึ้น “ไม่ได้สนใจจริง ๆ” (doesn’t really care) นั่นจะ “ขจัดความปรารถนาอันลึกซึ้งที่พวกเขาจะต้องการใส่ใจ” ในงานของตนออกไป.15 ในทางกลับกัน หากผู้นำแสดงความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละต่อคุณภาพ องค์กรทั้งหมดจะถูกยกมาตรฐานขึ้นตามไปด้วย

ในเชิงกลยุทธ์ หลักการนี้เป็นกลไกการควบคุมคุณภาพที่จำเป็นสำหรับ Scale AI เนื่องจากบริษัทจัดเตรียมข้อมูลสำหรับการใช้งานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การวางแผนทางการทหาร 5 หรือยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ.6 หากเกิดข้อผิดพลาดด้านคุณภาพแม้เพียงเล็กน้อยในขั้นตอนการติดป้ายกำกับข้อมูล (Data Labeling) มันจะส่งผลเสียต่อความแม่นยำของโมเดลแนวหน้า (Frontier Models) ที่สร้างขึ้นบนข้อมูลนั้น.16 การรับรองว่า “คุณภาพแฟร็กทัล” จะต้องถูกฝังลึกในทุกอณูขององค์กรจึงสร้างปราการป้องกันทางคุณภาพที่แข็งแกร่งซึ่งคู่แข่งที่มีมาตรฐานที่หย่อนยานกว่าจะเลียนแบบได้ยาก

3.3 ปรัชญาการจ้างงาน: ความหนาแน่นของพรสวรรค์

Wang ให้ความสำคัญกับความมุ่งมั่นและพรสวรรค์อย่างยิ่งยวด โดยมีคำแนะนำที่ชัดเจนว่าควร “Hire people who give a shit” (จ้างคนที่สนใจจริง ๆ).15 การมุ่งเน้นความหนาแน่นของพรสวรรค์ (Talent Density) นี้ทำให้เขาสามารถสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพสูงได้ แม้จะมีขนาดเล็ก

Wang ตั้งข้อสังเกตที่สวนทางกับสัญชาตญาณทางธุรกิจทั่วไปว่า การมีจำนวนคนมากขึ้นไม่ได้หมายถึงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเสมอไป.11 Scale AI ได้เลือกที่จะคงจำนวนพนักงานไว้คงที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เน้นไปที่การสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพสูง.11 บทบาทล่าสุดของเขาในการสร้างห้องปฏิบัติการ AI ที่ Meta ก็สะท้อนหลักการนี้ โดยเขากล่าวว่า ทีม AI Lab ของ Meta มีขนาดเล็ก (ประมาณ 100 คน) แต่มีความสามารถมากกว่าแล็บอื่น ๆ ที่อาจมีขนาดใหญ่กว่าถึงสิบเท่า.17

การเปรียบเทียบระหว่างมุมมองธุรกิจทั่วไปกับการตีความของ Wang ถูกสรุปไว้ดังตารางต่อไปนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการยกระดับมาตรฐานผู้นำเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง:

Table 1.0: นิยามภาวะผู้นำที่เข้มข้นของ Alexandr Wang

คำศัพท์ธุรกิจทั่วไปการตีความของ Wang (คำสอนหลัก)นัยยะเชิงกลยุทธ์
สมดุลชีวิต/การทำงานการให้ความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ (“Put literally everything into doing this.”) 14บ่งชี้ว่าชัยชนะในตลาด AI ที่มีการแข่งขันสูงต้องใช้ความทุ่มเทในระดับที่ถือว่า “หมกมุ่น”
การจัดการแบบจู้จี้เป็นเพียง “การจัดการ” (Just Management) 14เน้นย้ำความจำเป็นของการควบคุมที่มีความละเอียดสูง (High-fidelity control) เพื่อให้ได้ “คุณภาพแฟร็กทัล” ในผลิตภัณฑ์สำคัญ
การส่งมอบงานเกินความคาดหมายเป็นเพียง “การส่งมอบงาน” (Merely Delivering) 14กำหนดมาตรฐานองค์กรที่สูงมากจนผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเป็นบรรทัดฐานขั้นต่ำสุด
คุณภาพ“คุณภาพคือแฟร็กทัล” (Quality is Fractal) 15ความมุ่งมั่นในคุณภาพต้องมาจากความเป็นผู้นำและต้องซึมซาบไปถึงทุกส่วนเล็กที่สุดขององค์กร

IV. คำสอนด้านความคิดและการตัดสินใจของผู้ประกอบการ

4.1 การเชื่อมั่นในสัญชาตญาณและการเรียนรู้จากข้อผิดพลาด

Wang ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเชื่อมั่นในสัญชาตญาณและความรู้สึกของตนเองอย่างสูง เขาแนะนำให้ “Go with your instinct and your gut” และ “always follow your instincts first” แม้จะรับฟังคำแนะนำและการชี้แนะจากผู้อื่นในช่วงเริ่มต้นก็ตาม.9 การพึ่งพาสัญชาตญาณนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำพูดสร้างแรงบันดาลใจ แต่เป็นกลไกการอยู่รอดของผู้ที่พยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมที่ไม่มีคู่มือสำเร็จรูป

ภูมิหลังของ Wang สะท้อนการพึ่งพาสัญชาตญาณในสถานการณ์ที่ขาดรูปแบบที่เป็นทางการ เขาไม่เคยเรียนหลักสูตรการทำแพทเทิร์นอย่างเป็นทางการ แต่เลือกที่จะเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง โดยการ “drape, and I’ll sew as I pin it” (การจัดผ้าและเย็บตามที่เขากลัดเข็มหมุด).18 การกระทำเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า ในสาขาที่ล้ำหน้า การลงมือทำตามสัญชาตญาณและการปรับตัวคือกุญแจสำคัญ

นอกจากนี้ Wang ยังกล่าวว่าเขา “ได้รับแรงบันดาลใจอย่างแท้จริงจากความผิดพลาดและสิ่งที่ผิดพลาดไป”.9 การเปลี่ยนมุมมองความล้มเหลวไปสู่แหล่งข้อมูลเชิงบวกสำหรับการเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็นเมื่อต้องทำงานในเทคโนโลยีแนวหน้า (Frontier Technology) ซึ่งเอกสารหรือขั้นตอนที่ชัดเจนยังไม่มีอยู่จริง ความผิดพลาดเป็นเพียงข้อมูลป้อนกลับ (feedback loops) ที่ขาดไม่ได้สำหรับการสร้างความก้าวหน้า

4.2 ความเป็นอิสระทางความคิดสำหรับคนรุ่นใหม่

Wang มองว่าข้อดีของคนรุ่นใหม่และผู้มีความสามารถที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพคือพวกเขา “ไม่ได้ผูกมัดอยู่กับแบบจำลอง ‘วิธีการทำ’ (how-to model)” ในการเริ่มต้นธุรกิจหรือสร้างผลิตภัณฑ์.9 สิ่งนี้เปิดโอกาสให้พวกเขา “ค้นพบวิธีการใหม่ ๆ ในการทำสิ่งต่าง ๆ”.18

การที่ Wang ลาออกจาก MIT แสดงถึงความกล้าหาญในการทิ้งกรอบความคิดแบบดั้งเดิม การสนับสนุนนี้กระตุ้นให้ผู้มีความสามารถใหม่ ๆ สร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการและท้าทายกรอบความคิดที่ถูกสร้างขึ้นมาในอดีต.18 ในโลกของ AI ที่ความก้าวหน้าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การไม่ยึดติดกับรูปแบบที่ล้าสมัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการนำทางนวัตกรรม


V. วิสัยทัศน์สำหรับอนาคตของ AI และทักษะที่จำเป็น

Alexandr Wang ไม่เพียงแต่กำหนดกลยุทธ์สำหรับบริษัทของเขาเท่านั้น แต่ยังกำหนดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับการปรับเปลี่ยนทักษะที่จำเป็นของแรงงานมนุษย์ในอนาคตอันใกล้

5.1 การเปลี่ยนแปลงบทบาทของวิศวกร: จากการเขียนโค้ดสู่ “Vibe-Coding”

Wang ได้ทำการคาดการณ์ที่รุนแรงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงบทบาทของวิศวกรซอฟต์แวร์.17 เขากล่าวว่าเขารู้สึก “ถูกทำให้เป็นคนหัวรุนแรง” (radicalised) โดยความสามารถในการเขียนโค้ดของ AI และคาดการณ์ว่าภายในห้าปีข้างหน้า โมเดล AI จะสามารถเขียน “โค้ดทั้งหมดที่เขาเคยทำงานมาได้อย่างแท้จริง”.17

เขายืนยันว่าบทบาทของวิศวกรซอฟต์แวร์ในปัจจุบันจะแตกต่างอย่างพื้นฐานจากเดิม.17 ด้วยเหตุนี้ คำแนะนำที่ “ชัดเจนและไม่คลุมเครือ” สำหรับเยาวชนยุค Gen Z ที่มีอายุราว 13 ปี คือการทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการฝึกฝนสิ่งที่เขาเรียกว่า

“Vibe-Coding”.7

Vibe-Coding คือทักษะในการสั่งงานให้ AI เขียนโค้ดตามคำสั่งในภาษาอังกฤษธรรมดา.7 Wang เชื่อว่าการอุทิศเวลา 10,000 ชั่วโมงให้กับการฝึกฝนเครื่องมือ AI เหล่านี้จะสร้าง “ข้อได้เปรียบมหาศาล” ให้กับพวกเขา.17 การก้าวข้ามจากทักษะการเขียนโค้ดพื้นฐานไปสู่การเป็นผู้กำหนดทิศทางของ AI เป็นสิ่งที่จำเป็น ทักษะนี้ไม่ต่างอะไรกับวิธีที่ศิลปินที่เข้าใจประวัติศาสตร์ศิลปะอย่างลึกซึ้งสามารถใช้คำศัพท์เฉพาะทางเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าจากเครื่องมือสร้างงานศิลปะด้วย AI.20 ความได้เปรียบจะเปลี่ยนจากการลงมือเขียนโค้ดเป็นการกำหนดโครงสร้างของปัญหาและการตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ AI สร้างขึ้น

5.2 การสร้างความได้เปรียบของมนุษย์: การให้เหตุผลระยะยาว

แม้ AI จะมีความสามารถในการเขียนโค้ดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Wang ยืนยันว่ามนุษย์จะยังคงมี “ความแตกต่างที่ชัดเจน” ในด้าน “การคิดในระยะยาว” (long-form thinking) และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ใน “ขอบเขตเวลาที่ยาวนานมาก”.22

เขาระบุจุดอ่อนที่สำคัญของโมเดล AI ในปัจจุบันว่า พวกเขามักจะดีในการคาดการณ์ขั้นตอนต่อไป แต่ความแม่นยำจะลดลงอย่างมากเมื่อต้องประมวลผลขั้นตอนที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนต่อเนื่องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พวกเขาจะทำผิดพลาดในขั้นตอนการให้เหตุผลที่สาม สี่ หรือห้า”.22 การขาดความสามารถในการให้เหตุผลหลายขั้นตอนต่อเนื่องนี้ทำให้มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและกำหนดทิศทางกลยุทธ์ในระยะยาว

เพื่อรักษาความได้เปรียบนี้ Wang ได้แนะนำให้เยาวชนมุ่งเน้นการฝึกฝนทักษะการคิดเชิงนามธรรมและการให้เหตุผลหลายขั้นตอน โดยเน้นย้ำถึงสาขาวิชาทางเทคนิคคลาสสิก เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเศรษฐศาสตร์.22 เขาอธิบายว่าวิชาเหล่านี้บังคับให้ผู้เรียนต้องคิดวิเคราะห์ผ่านผลกระทบหลายขั้นตอนและในระยะยาว ซึ่งเป็นทักษะที่ยากสำหรับ AI ที่จะทำซ้ำในปัจจุบัน.22 นี่คือคำแนะนำเชิงยุทธศาสตร์สำหรับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของมนุษย์เพื่อชี้นำยุคของ Superintelligence

ตารางต่อไปนี้แสดงการจัดลำดับความสำคัญของทักษะที่ Wang แนะนำ เพื่อให้มนุษย์สามารถรักษาความได้เปรียบเหนือปัญญาประดิษฐ์:

Table 2.0: คำแนะนำด้านทักษะสำหรับยุค AI ของ Alexandr Wang

ทักษะที่ต้องพัฒนา (Human Focus)คำสอนหลักของ Wangเหตุผลเชิงกลยุทธ์
การเขียนโค้ด (Implementation)Vibe-Coding: การสั่งงาน AI ด้วยภาษาธรรมชาติ (10,000 hours dedication) 17AI จะเขียนโค้ดส่วนใหญ่ได้ภายใน 5 ปี บทบาทมนุษย์คือการกำหนดทิศทาง 17
การให้เหตุผลเชิงตรรกะระยะสั้นLong-Form Thinking: ความสามารถในการคิดวิเคราะห์หลายขั้นตอนในระยะยาว 22AI ล้มเหลวในขั้นตอนการให้เหตุผลที่ 3, 4, หรือ 5 มนุษย์จึงต้องรักษาความได้เปรียบนี้ 22
ศาสตร์ที่ช่วยในการให้เหตุผลคณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เศรษฐศาสตร์ 22บังคับให้ผู้เรียนคิดในระยะยาวและวิเคราะห์ผลกระทบหลายขั้นตอน ซึ่งเป็นทักษะที่ยากต่อการทำซ้ำโดย AI

VI. AI, ความมั่นคงของชาติ, และค่านิยมประชาธิปไตย

บทบาทของ Alexandr Wang ในเวทีสาธารณะแตกต่างจาก CEO ด้านเทคโนโลยีส่วนใหญ่ โดยเขาได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้สนับสนุนนโยบาย (Policy Advocate) ที่มอง AI เป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ

6.1 AI ในฐานะยุทธศาสตร์ความมั่นคงและอำนาจการป้องปราม

ความเชื่อมั่นที่ฝังรากลึกของ Wang มาจากการตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากับความมั่นคงของชาติ.3 หลังจากเดินทางไปจีนในปี 2018 เขาก็กลายเป็นกระบอกเสียงที่ชัดเจนเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เกิดจากความทะเยอทะยานด้าน AI ของจีน.3 เขามองว่าการแข่งขันด้าน AI เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง และการรักษาความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสาขาเทคโนโลยีนี้คือสิ่งที่ไม่สามารถต่อรองได้.1

Wang ได้กล่าวถึง Superintelligent AI ว่าเป็น “พัฒนาการทางเทคโนโลยีที่อันตรายที่สุดนับตั้งแต่ระเบิดนิวเคลียร์”.8 ด้วยการวางกรอบงานของ Scale AI ในบริบทของความมั่นคงของชาติ เขาจึงสามารถเข้าถึงและทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงใน Washington และได้รับสัญญามูลค่าสูงกับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ.2 การผสานรวมเป้าหมายทางธุรกิจของเขากับวาระนโยบายระดับชาติทำให้ Scale AI มีความจำเป็นต่อระบบนิเวศทางเทคโนโลยีของประเทศ

6.2 การส่งออกค่านิยมผ่านเทคโนโลยี

นอกเหนือจากความได้เปรียบทางเศรษฐกิจและการทหารแล้ว Wang ยังมองว่าการเป็นผู้นำด้าน AI เป็นโอกาสในการส่งออกค่านิยม.1 เขายืนยันว่าเทคโนโลยี AI มีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับระบบการปกครองและอุดมการณ์ของผู้พัฒนา.1

Wang เน้นย้ำว่า “เรามีความสามารถที่จะทำให้มั่นใจว่าค่านิยมประชาธิปไตย และค่านิยมหลายอย่างที่เรามีอยู่ในสหรัฐอเมริกา จะถูกส่งออกไปทั่วโลกผ่านเทคโนโลยี”.1 ในมุมมองของเขา การแข่งขันด้าน AI จึงไม่ใช่แค่การแข่งขันทางเทคนิคหรือเชิงพาณิชย์เท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างค่านิยมประชาธิปไตยกับระบอบอำนาจนิยมในระดับโลก

6.3 รูปแบบความเป็นผู้นำในฐานะผู้สนับสนุนนโยบาย

Wang ใช้กลยุทธ์การสื่อสารสาธารณะที่แตกต่างอย่างมากจากบรรดา CEO เทคฯ ทั่วไป เขาเลือกใช้รูปแบบการสื่อสารแบบ “ความถี่ต่ำ แต่มีผลกระทบสูง” (low-frequency, high-impact).23 แทนที่จะมุ่งเน้นเนื้อหาที่ขับเคลื่อนด้วยวัฒนธรรมหรือการเล่าเรื่องผลิตภัณฑ์ โพสต์ของเขาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ มักจะอ่านเหมือน “บันทึกถึงผู้กำหนดนโยบายหรือ CEO”.23

เขาวางกรอบ AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อความยืดหยุ่น การป้องกันประเทศ และความเป็นผู้นำระดับโลก.23 รูปแบบการสื่อสารที่เน้นความเป็นทางการเชิงนโยบาย และการรักษาช่องทางการสื่อสารแบบทางเดียว (ไม่ตอบกลับความคิดเห็น) 23 เป็นการเสริมสร้างตำแหน่งของเขาในฐานะผู้นำเชิงยุทธศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับในแวดวงนโยบาย

การกำหนดตำแหน่งตัวเองเช่นนี้เป็นความจำเป็นเชิงกลยุทธ์อย่างยิ่ง เนื่องจากลูกค้าหลักของ Scale AI คือหน่วยงานภาครัฐ.2 การที่ Wang ผสานบทบาทของผู้ก่อตั้งเข้ากับผู้สนับสนุนนโยบาย ทำให้เขาเสริมสร้างความจำเป็นของ Scale AI ต่อผลประโยชน์ของชาติสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการสร้างปราการป้องกันทางธุรกิจที่ไม่สามารถวัดมูลค่าเป็นตัวเงินได้


VII. บทสรุปและคำแนะนำเชิงกลยุทธ์

7.1 การสังเคราะห์หลักคำสอนของ Wang

หลักคำสอนของ Alexandr Wang เป็นมากกว่าข้อความสร้างแรงบันดาลใจทั่วไป แต่เป็นกรอบการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างองค์กรเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จในศตวรรษที่ 21

การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าปรัชญาของเขาสร้างขึ้นบนเสาหลักที่เชื่อมโยงกันสามประการ: ความเข้มข้นส่วนบุคคล (Intensity), โครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง (Data Moats), และ ความรับผิดชอบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Responsibility). เขาเชื่อว่าการเป็นผู้นำด้าน AI ต้องอาศัยการละทิ้งรูปแบบการทำงานแบบ “how-to model” ที่ตายตัว 9 และการยอมรับระดับความทุ่มเทที่คนอื่นอาจมองว่า “มากเกินไป”.14 การเดินทางของเขา, ตั้งแต่การลาออกจาก MIT เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล 2 ไปจนถึงการสนับสนุนอย่างเปิดเผยในเรื่องความมั่นคงของชาติ 3, ตอกย้ำถึงความเชื่อที่ว่า ความสำเร็จใน AI นั้นต้องอาศัยวิสัยทัศน์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดทางธุรกิจและมุ่งสู่ผลกระทบระดับโลก

7.2 ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติสำหรับผู้นำในยุค AI

จากหลักการและวิสัยทัศน์ของ Wang ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมสามารถสรุปคำแนะนำเชิงปฏิบัติสำหรับผู้นำองค์กรในยุค AI ได้ดังนี้:

  1. สร้างความได้เปรียบด้านข้อมูลเป็นอันดับแรก: ผู้นำไม่ควรลงทุนเดิมพันกับโมเดล AI เพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์สูง แต่ควรเน้นการสร้างทรัพย์สินทางปัญญาที่แท้จริงผ่านการรวบรวมและปรับแต่ง ข้อมูลคุณภาพสูงและเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Specialized Data) เพื่อสร้างคูน้ำป้องกันทางธุรกิจที่ไม่สามารถทำลายได้.11
  2. ยกระดับมาตรฐานคุณภาพอย่างสุดขั้ว: กำหนดมาตรฐานองค์กรที่เข้มข้นจนกระทั่งหลักการ “คุณภาพคือแฟร็กทัล” กลายเป็นหลักปฏิบัติที่ซึมซาบไปถึงทุกส่วนที่เล็กที่สุดขององค์กร.15 การจัดการด้วยความละเอียดสูง (High-fidelity control) ถือเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อผลิตภัณฑ์มีความสำคัญต่อภารกิจ (Mission-Critical).
  3. ลงทุนในการคิดเชิงกลยุทธ์ระยะยาวของมนุษย์: แม้ AI จะสามารถทำงานโค้ดดิ้งได้ มนุษย์ต้องฝึกฝนความสามารถในการให้เหตุผลเชิงซ้อนในระยะยาว.22 การส่งเสริมการศึกษาในสาขาวิชาพื้นฐาน เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเศรษฐศาสตร์ จะช่วยสร้างความสามารถทางปัญญาที่สามารถชี้นำและควบคุมระบบ AI ที่มีความก้าวหน้าในอนาคต.22

7.3 มรดกของ Alexandr Wang

Alexandr Wang ได้เปลี่ยนการรับรู้ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเกี่ยวกับ AI จากเครื่องมือเชิงพาณิชย์ไปสู่เครื่องมือเชิงนโยบายและความมั่นคงที่สำคัญ การเป็นผู้นำของเขาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การแข่งขันด้าน AI ไม่ได้มีขอบเขตจำกัดอยู่แค่การพัฒนาเทคโนโลยีที่เร็วที่สุดเท่านั้น แต่มีเดิมพันอยู่ที่ความสามารถในการผสานรวมเทคโนโลยีนั้นเข้ากับค่านิยมหลักและยุทธศาสตร์ระดับชาติ.1 ในฐานะผู้ก่อตั้งที่ประสบความสำเร็จในวัยเยาว์ การสร้างความชัดเจนในวิสัยทัศน์ที่เข้มข้นและเน้นคุณภาพอย่างไม่ลดละนี้ ได้สร้างพิมพ์เขียวใหม่สำหรับการเป็นผู้นำองค์กรเทคโนโลยีในยุค Superintelligence.

ผลงานที่อ้างอิง

  1. Scale AI’s Alexandr Wang on Securing U.S. AI Leadership – CSIS, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.csis.org/analysis/scale-ais-alexandr-wang-securing-us-ai-leadership
  2. The Youngest Billionaire Leading U.S. AI | Scale AI Founder Alexandr Wang – YouTube, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=wdQlHjQiP10
  3. Alexandr Wang: The 100 Most Influential People in AI 2023 | TIME, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://time.com/collection/time100-ai/6310631/alexandr-wang/
  4. He becomes a billionaire at 24 and reveals what everyone should do to follow in his footsteps – AS USA, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://en.as.com/latest_news/he-becomes-a-billionaire-at-24-and-reveals-what-everyone-should-do-to-follow-in-his-footsteps-n/
  5. Alexandr Wang: Building Scale AI, Transforming Work With Agents …, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=5noIKN8t69U
  6. Scale AI: Accelerate the Development of AI Applications, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://scale.com/
  7. This 28-Year-Old AI Billionaire Says Teens Should Spend ‘All’ of Their Time Learning One Skill – Entrepreneur, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.entrepreneur.com/business-news/billionaire-alexandr-wang-says-teens-should-hone-this-skill/497624
  8. Alexandr Wang and Nat Friedman: The 100 Most Influential People in AI 2025 | TIME, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://time.com/collections/time100-ai-2025/7305854/alexandr-wang-and-nat-friedman/
  9. Top 23 Alexander Wang Quotes (FASHION), เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://graciousquotes.com/alexander-wang/
  10. Why Human Data is Key to AI: Alexandr Wang from Scale AI – YouTube, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.youtube.com/watch?v=HSeE40X60rA
  11. Unlocking AI’s Future: Alexandr Wang on the Power of Frontier Data | Andreessen Horowitz, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://a16z.com/frontier-data-foundries-alex-wang-scale-ai/
  12. Scale AI for the Future: Alexandr Wang on Building Agents, Data, and Competitive Edge, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.remio.ai/post/scaling-ai-for-the-future-alexandr-wang-on-building-agents-data-and-competitive-edge
  13. Scale AI’s Alexandr Wang on the most powerful technological advancement of our time, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.accel.com/podcast-episodes/scale-alexandr-wang
  14. ‘If you’re not overdoing it, you’re underdoing it’: World’s youngest self-made billionaire Alexandr Wang on what sets successful CEOs apart from most people – VnExpress International, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://e.vnexpress.net/news/tech/personalities/if-you-re-not-overdoing-it-you-re-underdoing-it-world-s-youngest-self-made-billionaire-alexandr-wang-on-what-sets-successful-ceos-apart-from-most-people-4945100.html
  15. Alexandr Wang: “Hire people who give a shit” – Startup Archive, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.startuparchive.org/p/alexandr-wang-hire-people-who-give-a-shit
  16. 2 things world’s youngest self-made billionaire Alexandr Wang never delegates to AI, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://e.vnexpress.net/news/tech/personalities/2-things-world-s-youngest-self-made-billionaire-alexandr-wang-never-delegates-to-ai-4905434.html
  17. 28-year-old AI billionaire to teens: You should spend all of your time…., เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://timesofindia.indiatimes.com/technology/tech-news/28-year-old-ai-billionaire-to-teens-you-should-spend-all-of-your-time-/articleshow/124227375.cms
  18. Top 10 Alexander Wang Quotes – BrainyQuote, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.brainyquote.com/lists/authors/top-10-alexander-wang-quotes
  19. Alexander Wang Quotes – BrainyQuote, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.brainyquote.com/authors/alexander-wang-quotes
  20. Young AI billionaire Alexandr Wang reveals the one skill that could define Gen Z’s future and create their ‘Bill Gates moment’ | – The Times of India, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://timesofindia.indiatimes.com/technology/tech-news/young-ai-billionaire-alexandr-wang-reveals-the-one-skill-that-could-define-gen-zs-future-and-create-their-bill-gates-moment/articleshow/124157768.cms
  21. Young AI billionaire urges teenagers to dedicate all their time to one skill to seize today’s tech opportunities, calls it Gen Z’s ‘Bill Gates moment’ – The Economic Times, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://m.economictimes.com/magazines/panache/young-ai-billionaire-alexandr-wang-urges-teenagers-to-dedicate-all-their-time-to-one-skill-to-seize-todays-tech-opportunities-calling-it-gen-zs-bill-gates-moment/articleshow/124154622.cms
  22. Learn These AI Skills, Self-Made Billionaire Alexandr Wang Says – Entrepreneur, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.entrepreneur.com/business-news/learn-these-ai-skills-self-made-billionaire-alexandr-wang/477927
  23. Who is Alexandr Wang? – Favikon, เข้าถึงเมื่อ ตุลาคม 5, 2025 https://www.favikon.com/blog/who-is-alexandr-wang